ข่าวของเจ้าสีหนุ ทำให้ผมตระหนักว่า "ตูไม่รู้อะไรเกี่ยวกับประวัติศาสตร์เขมรเลยนี่หว่า!" ว่าแล้วก็ไปอ่านเพื่อจับใจความมาสักหน่อย เอาเฉพาะ "เขมรยุคใหม่" หลังสงครามโลกเป็นต้นมา
เขมรเคยรุ่งเรืองสุดๆ ในยุคจักรวรรดิ (สร้างนครวัด-นครธม) แล้วล่มสลายลงไป จากนั้นก็ตกเป็นประเทศราชของอยุธยา และรัตนโกสินทร์ในเวลาต่อมา ก่อนจะโดนฝรั่งเศสยึดไปจากกรณีพิพาทอินโดจีน แล้วเป็นส่วนหนึ่งของ French Indochina นั่นเอง
เขมรในยุครัตนโกสินทร์ปกครองโดยราชวงศ์นโรดม ซึ่งมีสองสายย่อย ภายหลังฝรั่งเศสหันไปหนุน "เจ้านโรดมสีหนุ" ซึ่งเป็นหลานอาของกษัตริย์องค์ก่อนหน้าแทน (เจ้าสีหนุเป็นกษัตริย์องค์ที่ห้าของราชวงศ์)
หลังสงครามโลก ฝรั่งเศสถอนตัวจากอินโดจีน กัมพูชาได้รับอิสรภาพในปี 2496 ยุคสมัยอันวุ่นวายของกัมพูชาก็เริ่มขึ้น อำนาจเปลี่ยนมือกันเป็นว่าเล่นระหว่างขุมกำลังฝ่ายต่างๆ
ราชอาณาจักรกัมพูชา
ปี ค.ศ. 1953-1970, ปี พ.ศ. 2497-2513, Wikipedia
เจ้าสีหนุเป็นกษัตริย์อยู่พักหนึ่ง แล้วสละบัลลังก์มาเล่นการเมือง ผู้ที่เป็นกษัตริย์แทนคือพระบิดา "พระนโรดม สุรามฤต" ส่วนเจ้าสีหนุชนะการเลือกตั้ง ได้เป็นนายกรัฐมนตรี
ช่วงนี้อำนาจรวมศูนย์อยู่ที่เจ้าสีหนุ การเมืองโลกผันผวนเพราะสงครามเย็น เจ้าสีหนุต่อต้านคอมมิวนิสต์ แต่ก็ไม่ไว้ใจสหรัฐ เลยใช้นโยบายไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด แต่ภายหลังพอเวียดนามเหนือทำท่าจะชนะ ก็เลยสนับสนุนเวียดนามเหนือ ทำให้ฝ่ายทหารที่ได้แรงหนุนจากสหรัฐไม่พอใจ
ปี 2513 นายกรัฐมนตรีและนายพล ลอน นอล (บางที่เรียก ลน นล) ก็นำกองกำลังฝ่ายขวารัฐประหารเจ้าสีหนุ ส่วนเจ้าสีหนุลี้ภัยไปจีน
สาธารณรัฐเขมร
ปี ค.ศ. 1970-1975, ปี พ.ศ. 2513-2518, Wikipedia
ฝ่ายของลอน นอล ที่สนับสนุนสหรัฐสามารถยึดอำนาจได้ก็เปลี่ยนการปกครองเป็นระบอบสาธารณรัฐ โดยมีราชตระกูลที่อยู่ตรงข้ามกับตระกูลของเจ้าสีหนุ (คือตระกูลพระสีสุวัตถิ์) เป็นพันธมิตร แต่ภายหลังลอน นอล ก็รวบอำนาจ แล้วกำจัดฝ่ายเจ้าออกไป
ช่วงนี้การเมืองโลกยังมีภาวะสงครามเย็น ฝ่ายคอมมิวนิสต์หรือ "เขมรแดง" ได้รับการสนับสนุนจากเวียดนาม (ในฐานะพรรคคอมมิวนิสต์แห่งอินโดจีน) ออกไปนอกเมืองหลวงและทำสงครามกองโจร ฝ่ายของลอน นอล อ่อนแอทางทหารและมีปัญหาคอร์รัปชันในทางการปกครอง เลยแพ้ให้กับฝ่ายเขมรแดง พนมเปญถูกยึดในปี 2518
ลอน นอล หนีออกไปอยู่ในสหรัฐ ส่วนผู้นำเขมรที่เหลือโดนเขมรแดงสังหาร
กัมพูชาประชาธิปไตย
ปี ค.ศ. 1975-1979, ปี พ.ศ. 2519-2522, Wikipedia
ชื่อฟังดูเป็นประชาธิปไตย แต่จริงๆ แล้วเป็น "สาธารณรัฐสังคมนิยม" ที่ปกครองโดยเขมรแดง ผู้นำสูงสุดคือพล พต และมีกลุ่มคณะผู้นำเขมรแดงคนอื่นๆ เช่น เขียว สัมพัน, นวน เจีย, เอียง ซารี ฯลฯ
เขมรแดงยึดหลักคอมมิวนิสต์ แต่จริงๆ แล้วคงเรียกว่าเป็นเผด็จการมากกว่า เขมรแดงไม่เชื่อในเมือง ย้ายคนออกไปอยู่ในชนบท และทำคอมมูนการเกษตร ห้ามนับถือศาสนา และสังหารปัญญาชน ทำให้ระบบเศรษฐกิจ-สังคมของเขมรล่มสลายไปในช่วงนี้ คนจำนวนมากอพยพลี้ภัยไปยังฝั่งไทย ตัวเลขผู้เสียชีวิตในช่วงนี้ว่ากันว่าประมาณ 2 ล้านคน
เดิมทีเขมรแดงเป็นพันธมิตรกับเวียดนาม แต่ตอนหลังก็แตกแยกกัน ฝ่ายเขมรคอมมิวนิสต์อีกสายที่ได้รับการหนุนหลังจากเวียดนาม (นำโดยเฮง สัมริน) ออกไปตั้งดินแดนทางฝั่งตะวันออกของประเทศ (ที่ติดกับเวียดนาม) ลุกฮือต้านเขมรแดง
ฝ่ายต่อต้านพล พต มีทั้งกลุ่มคอมมิวนิสต์ (ที่เวียดนามหนุนหลัง) และกลุ่มที่ไม่ใช่คอมมิวนิสต์ (เช่น กลุ่มของเจ้าสีหนุ) ต่อสู้กับเขมรแดง แต่กลุ่มที่มีกำลังกล้าแข็งที่สุดคือกลุ่มของเฮง สัมริน ยึดพนมเปญได้ในปี 2522
เขมรแดงหนีออกมาตั้งฐานที่มั่นทางภาคตะวันตก ที่ติดกับประเทศไทย
สาธารณรัฐประชาชนกัมพูชา
ปี ค.ศ. 1979-1993, ปี พ.ศ. 2522-2536, Wikipedia
กัมพูชายุคนี้ปกครองโดยกลุ่มฝ่ายซ้ายที่สนิทสนมกับเวียดนาม มีทหารของเวียดนามข้ามพรมแดนมาเป็นกองกำลังจำนวนมาก เขมรช่วงนี้มีปัญหาเศรษฐกิจเพราะต้องฟื้นฟูประเทศจากการทำลายของเขมรแดง
ในแง่การทหาร ฝ่ายของเฮง สัมริน "เอาอยู่" แต่ในแง่การทูต เวียดนามไม่ได้รับการยอมรับจากโลกเสรี (เพราะสู้ชนะอเมริกา) ทำให้สาธารณรัฐประชาชนกัมพูชา (People's Republic of Kampuchea) พลอยไม่มีที่นั่งในสหประชาชาติตามไปด้วย
ช่วงนี้เขมรฝ่ายอื่นๆ ที่เป็นศัตรูกับเขมรฝ่ายเวียดนาม ก็ผนึกกำลังกันหลวมๆ เป็น "แนวร่วมเขมรสามฝ่าย" ได้แก่
- กลุ่มเขมรแดง นำโดยพล พต และ เขียว สัมพัน (ฝ่ายซ้ายไม่เอาเวียดนาม)
- พรรคฟุนซินเปก ของเจ้าสีหนุ (ฝ่ายเจ้า)
- แนวร่วมปลดปล่อยแห่งชาติประชาชนเขมร ของ ซอนซาน (ฝ่ายกลางๆ ที่สนิทกับตะวันตก)
กลุ่มนี้รวมตัวกันหลวมๆ โดยฝ่ายที่มีกองกำลังเข้มแข็งที่สุดคือเขมรแดง ซึ่งสนิทกับจีนและไทย
สงครามกลางเมืองระหว่าง "เขมรสามฝ่าย" กับ "สาธารณรัฐประชาชนกัมพูชา" ยืดเยื้อมาเรื่อยๆ ช่วงนี้มีเหตุการณ์การเมืองโลกคือโซเวียตล่มสลาย ความช่วยเหลือจากเวียดนาม (ที่สนิทกับโซเวียตแต่ทะเลาะกับจีน) จึงลดลง เวียดนามต้องถอนทหาร อิทธิพลของเฮง สัมริน ลดลง และฮุน เซน ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีแทน
ฝ่ายปกครองของเขมรก็ต้องปฏิรูปประเทศให้มีความเป็นคอมมิวนิสต์น้อยลง ช่วงหลังปี 2532 เป็นต้นมาก็เป็นกระบวนการเจรจาสันติภาพของเขมรสี่ฝ่าย โดยมีนายกชาติชาย เป็นตัวเชื่อม และนานาชาติให้การสนับสนุน ทุกฝ่ายเซ็นสัญญาสันติภาพที่ปารีสในปี 2534 และตั้งเป้าเลือกตั้งในปี 2536 โดยสหประชาชาติเข้ามาจัดการเลือกตั้งให้
ราชอาณาจักรกัมพูชา (ครั้งที่สอง)
ปี ค.ศ. 1993-ปัจจุบัน, ปี พ.ศ. 2536-ปัจจุบัน
เขมรยุครวมชาติกลับมาใช้ระบอบกษัตริย์ โดยเจ้าสีหนุกลับมานั่งบัลลังก์อีกรอบ และให้บุตรชายคือ เจ้านโรดม รณฤทธิ์ รับช่วงพรรคฟุนซินเปกต่อ
การเลือกตั้งในปี 2536 พรรคฟุนซินเปกชนะการเลือกตั้ง ส่วนพรรคประชาชนกัมพูชาของฮุนเซน ได้อันดับสอง ทั้งสองฝ่ายจับมือกันตั้งรัฐบาล โดยเจ้ารณฤทธิ์ เป็นนายกคนที่หนึ่ง และฮุนเซน เป็นนายกคนที่สอง
ฝ่ายเขมรแดงไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง และยึดปราสาทพระวิหารเอาไว้ กลายเป็นกลุ่มนอกกฎหมายเพราะถูกโดดเดี่ยวจากเขมรฝ่ายอื่น
กัมพูชาหลังรวมชาติยังขาดเสถียรภาพ พรรคฟุนซินเปกแตกแยกภายใน โดยสม รังสี แยกตัวออกไป (ปัจจุบันเป็นฝ่ายค้าน) ตอนหลังพรรคฟุนซินเปกทะเลาะกับฝ่ายของฮุน เซน และฮุน เซนก่อการรัฐประหารในปี 2540 ส่วนเจ้ารณฤทธิ์ ลี้ภัยไปปารีส
กัมพูชาเลือกตั้งใหม่อีกครั้งในปี 2541 เจ้ารณฤทธิ์ กลับมาสมัครเลือกตั้งอีกรอบ แต่พรรคฟุนซินเปกได้อันดับสอง พรรคประชาชนของฮุน เซน เลยจับมือกับพรรคฟุนซินเปกตั้งรัฐบาลผสม และฮุน เซน ครองอำนาจมาจนถึงทุกวันนี้ (เลือกตั้งอีกครั้งในปี 2546 เป็นรัฐบาลผสมของฮุน เซน กับพรรคฟุนซินเปกอีก) ภายหลังเจ้ารณฤทธิ์ถูกขับออกจากพรรคฟุนซินเปก และตั้งพรรคของตัวเองชื่อพรรคนโรดม รณฤทธิ์ แทน
เจ้านโรดม สีหนุ สละบัลลังก์ในปี 2547 ด้วยปัญหาสุขภาพ ให้บุตรชายคนเล็กที่ไม่ได้เล่นการเมือง คือ เจ้านโรดม สีหมุนี สืบทอดบัลลังก์ต่อมา
สรุป
เขมรยุคใหม่วุ่นวายเพราะขั้วอำนาจหลายขั้วที่สนับสนุนอุดมการณ์ทางการเมืองต่างกัน ชิงประเทศกัน ผลัดกันปกครองประเทศ
- ฝ่ายเจ้า ผู้นำคือเจ้าสีหนุ และเจ้ารณฤทธิ์
- ฝ่ายซ้าย ไม่สนับสนุนเวียดนาม คือ เขมรแดง
- ฝ่ายซ้าย สนับสนุนเวียดนาม คือ เฮง สัมริน และฮุน เซน
- ฝ่ายขวาของ ลอน นอล และภายหลังก็มีฝ่ายเสรีของ ซอน ซาน
สุดท้ายเกมจบลงด้วยชัยชนะของฝ่ายที่มีกำลังทหารมากที่สุดคือ ฝ่ายสนับสนุนเวียดนาม แต่ก็ถูกกระแสการเมืองโลกบีบให้ต้องปรับตัวเข้ากับฝ่ายอื่นๆ ด้วย
ผู้ชนะคนสุดท้ายคือฮุน เซน ที่สามารถยึดอำนาจในฝ่ายของตัวเองจากเฮง สัมริน มาได้ด้วยซ้ำ