หมายเหตุ: บล็อกตอนนี้ถือเป็นรีวิวสั้นๆ ไม่ได้จริงจังอะไรมาก ไม่ได้มีเครื่องมือตรวจวัดอะไร เน้นประสบการณ์ซื้อและการใช้งานมากกว่า
เรื่องมีอยู่ว่า พีซีออลอินวันที่ใช้อยู่ที่บ้าน (Gateway One ZX6961) อายุประมาณ 6 ปีกว่า มีอันเป็นไปจากปัญหาที่น่าจะเป็น hardware fault เลยนำเอาโน้ตบุ๊ก ThinkPad x250มาใช้แก้ขัดไป แต่ก็พบปัญหาว่า ปรับลดจากพีซีจอใหญ่มาเป็นโน้ตบุ๊กจอ 12"ทำให้ productivity ลดลงไปพอสมควร (ปกติที่ออฟฟิศมีจอนอก แต่ที่บ้านไม่มี)
ในเมื่อต้องซื้อคอมใหม่อยู่แล้ว (อยู่ระหว่างคิดว่าเป็นพีซีหรือโน้ตบุ๊ก) ยังไงก็ต้องซื้อจอใหม่อยู่ดี เลยตัดสินใจซื้อจอมาก่อนเพื่อให้ระดับของ productivity กลับคืนมา
ที่ผ่านมาได้ยินเสียงชื่นชมจอ Dell UltraSharp มานาน ในเมื่อมีโอกาสซื้อจอใหม่เพื่อใช้งานส่วนตัว ต้องใช้เยอะ วันนึงต้องอยู่กับมันนาน ก็เลยตัดสินใจเอา Dell UltraSharp แบบไม่ต้องคิดมาก จ่ายแพงกว่าจอเกรดทั่วไปหน่อย แลกกับคุณภาพพรีเมียมกว่า (ถือเป็น UltraSharp ตัวแรกของผมด้วย)
ซีรีส์ของจอมอนิเตอร์ Dell
คำถามถัดมาคือ จะเอาจอขนาดไหน รุ่นอะไรดี
ปัญหาของ Dell Thailand คือทำเว็บได้ห่วยมาก ข้อมูลเก่าไม่อัพเดต (ปัญหานี้แก้ไม่หาย เรื้อรังมานาน) ดังนั้นเราดูจากเว็บ Dell เมืองนอกสะดวกกว่า
โดยทั่วไปแล้ว จอของ Dell มีด้วยกัน 3 ซีรีส์คือ
- E Seriesจอเกรดทั่วไปสำหรับใช้งานในออฟฟิศ
- S Seriesจอเกรดพรีเมียม เน้นหน้าตาสวยงาม และมีจอสำหรับกลุ่มเกมเมอร์ จุดเด่นคือ response time จะต่ำมากๆ เช่น 1ms
- UltraSharpหรือ U Seriesจอเกรด professional สำหรับมืออาชีพ
ส่วนในสายของ UltraSharp ก็จะมีซีรีส์ย่อยแยกไปอีก โดยมักจะระบุไว้ในตัวอักษรตัวสุดท้ายในชื่อรุ่น เช่น จอไร้สาย (Wireless Monitor รหัส Wi), จอโค้ง (Curved), จอกว้างพิเศษ (Ultrawide รหัส W) จอเน้นสีสันเที่ยงตรง (PremierColor รหัส D), จอมีขาแขวน (Arm รหัส A), จอที่ฐานใช้ชาร์จไฟไร้สายได้ (Wireless Charging Stand รหัส J) เป็นต้น
ขนาดของจอก็มีตั้งแต่ 24", 25", 27", 29", 30", 32", 34" (29"กับ 34"เป็น Ultrawide) อย่างแรกสุดเราก็คงต้องเริ่มก่อนว่าอยากได้จอไซส์ประมาณไหน
ความต้องการของผมคือจอ 24"ก็พอแล้ว (โต๊ะเล็ก ที่น้อย) ส่วนฟีเจอร์อื่นใดก็ไม่ต้องการอะไรเป็นพิเศษ การเลือกรุ่นจึงง่ายมากคือ UltraSharp U2417H (U = UltraSharp, 24 = ขนาด, 17 = ซีรีส์ย่อย, H = สัดส่วนจอแบบ 16:9)
จอ Dell UltraSharp 24"ถือเป็นสินค้าตัวถูกที่สุดในซีรีส์ และได้รับความนิยมอย่างสูง (ก็เพราะมันถูก) ที่ผ่านมาจอสาย U24 ออกมาแล้วหลายรุ่นย่อย โดยตัวก่อนหน้านี้ที่ดังมากคือ U2414H จากนั้นก็อัพเกรดมาเป็น U2417Hตัวล่าสุด (เปิดตัวช่วงกลางปี 2016 ก็คือไม่ได้ใหม่มาก ออกมาได้สักระยะแล้ว แต่ก็ถือว่าเป็นตัวใหม่ที่สุดในสายนี้)
จุดเด่นของ U2417H และ UltraSharp ซีรีส์ใหม่ๆ คือดีไซน์แบบ InfinityEdge คือขอบจอบางพิเศษที่เริ่มใช้ครั้งแรกในโน้ตบุ๊ก Dell XPS 13 ปี 2015) ในแง่การใช้งานคงไม่มีผลอะไร แต่ในแง่ดีไซน์ก็ต้องบอกว่ามันดูสวยงามกว่าเดิมมาก
สรุปก็คือเอาตัวนี้แหละ
สเปก
Dell UltraSharp U2417H เป็นจอราคาถูกที่สุดของ UltraSharp ดังนั้นสเปกก็ไม่ได้เลิศเลออะไรมากครับ ความละเอียดก็พื้นฐานของยุคนี้คือ Full HD 1920x1080 (จอ 4K 8K ก็ไว้ว่ากันในอนาคตนะลูกนะ) ความสว่าง 250 cd/m2, คอนทราสต์ 1000:1, Color Gamut 99% sRGB
เนื่องจากมันเป็นจอสำหรับงาน professional ไม่ใช่จอเล่นเกม อัตรา response tie อยู่ที่ 8ms (6ms ใน Fast Mode) อันนี้คงเทียบกับพวก gaming monitor ไม่ได้ และไม่มีฟีเจอร์พวก G-Sync/Freesync
สเปกละเอียดคงหาอ่านกันได้เองจากในเว็บของ Dell นะครับ
ซื้อที่ไหนดี?
ปัญหาของ Dell Thailand คือไม่มีหน้าร้านออนไลน์ที่สร้างชื่อให้กับ Dell ดังนั้นเราต้องหาช่องทางซื้อสินค้ากันเองแบบตามมีตามเกิดสักหน่อย
ผมลองท่าง่ายๆ คือลองหาจากใน Priceza ดูว่ามีที่ไหนขายบ้าง และราคาเท่าไร ก็พบกับราคาบนเว็บ Serve-Solutionขายถูกกว่าใครเพื่อนคือ 8,600 บาท ราคาก็ถือว่าน่าสนใจมาก แต่ไม่เคยได้ยินชื่อเว็บนี้เลยเสียวๆ เหมือนกันครับว่า สั่งไปแล้วเราจะมีปัญหาอะไรหรือเปล่า
ว่าแล้วก็เลยลองโทรเข้าไปที่ออฟฟิศดูก่อน เพราะในเว็บไม่ได้ระบุเรื่องค่าส่งด้วย ผลคือโทรไปแล้วเจอกับ "เซลส์ประชุมอยู่ค่ะ เดี๋ยวให้ติดต่อกลับ"ผมก็อึ้งๆ ไปพักนึงว่า จะไหวมั้ย แต่อีกไม่นาน เซลส์ก็โทรกลับมา แถมบริการดีมาก ข้อมูลเพิ่มเติมที่ได้คือ
- ส่งฟรีใน กทม.
- มีบริการแบบเก็บเงินปลายทาง (cash on delivery) ด้วย
- ออกบิล VAT ได้
- สั่งก่อน 4 โมงเย็น จะได้ของในวันรุ่งขึ้น เพราะบริษัทไม่มีสต๊อกของ ต้องส่งคำสั่งไปตอน 4 โมงเย็น แล้วสินค้าจะส่งมาที่บริษัทในช่วงเช้าวันถัดไป พร้อมออกกระจายสินค้าในช่วงกลางวัน
พอสบายใจแล้วก็เลยสั่งมา 1 ตัว วันถัดมาช่วงสายๆ ของก็มาส่งครับ คุยกับพนักงานส่งแล้วพบว่า เป็นบริษัทในเครือเดียวกับ Strek ที่เป็น distributor สินค้าไอทีรายใหญ่ของบ้านเรา (โถ่ แล้วก็ไม่บอกตั้งแต่แรก) เอาเป็นว่าใครคิดจะสั่งกับเว็บนี้แล้วไม่มั่นใจ ผมลองมาแล้วเวิร์คจึงมาบอกต่อครับ อันนี้ไม่ได้ค่าโฆษณาใดๆ คือสุ่มหามาเจอเองแบบที่เล่าไปข้างบน
แกะกล่อง
สินค้าส่งมาถึงแล้วก็มาแกะกล่องกันเลยดีกว่า กล่องของ UltraSharp เป็นกล่องกระดาษสีขาว มีรูปตัวจอแปะมาให้ดูด้วย
พอเปิดกล่องออกมาก็พบกับอุปกรณ์พวกฐานจอ ขาตั้ง และสายไฟ ถูกจัดอยู่ในชั้นบนของกล่อง ส่วนตัวจอจริงๆ อยู่ชั้นล่าง อันนี้ต้องบอกนิดนึงว่า จอ Dell รุ่นนี้ไม่มีสาย HDMI มาให้นะครับ (มีแต่สาย DisplayPort) ถ้าใครต่อกับโน้ตบุ๊กที่เป็น HDMI หรือ Mini HDMI ต้องหาซื้อสายเพิ่มกันเอง ผมว่าเป็นจุดเสียหน่อยนึงเหมือนกัน คือจอราคาระดับนี้น่าจะให้มาด้วย
จุดเด่นของจอ UltraSharp คือจอทุกตัวจะถูก Calibrate มาจากโรงงาน พร้อมมีใบแสดงผลการ Calibration แยกเฉพาะของจอนั้นใส่ในกล่องมาให้ด้วย อันนี้ก็สบายใจได้ครับว่าสีสันเที่ยงตรงตามมาตรฐาน
การประกอบจอก็ไม่มีอะไรยาก คือเอาขาตั้งสอดเข้าด้านหลังจอให้พอดี แล้วเอาฐานจอมาประกบ โดยไขน็อตใต้ฐานจอให้เข้าที่ ใช้มือหมุนได้เลย ไม่ต้องมีอุปกรณ์ช่วยใดๆ
พอร์ตเชื่อมต่อที่มีมาให้ มี HDMI in x1, DisplayPort (DP) in x1, Mini DisplayPort x1, DisplayPort out x1, ช่องเสียบหูฟัง/ลำโพง x1, USB in (upstream) x1, USB ธรรมดา (downstream) x4 (หลัง x2, ข้าง x2)
จอตัวนี้ทำตัวเป็น USB Hub ให้ด้วย ดังนั้นจะมีสาย USB upstream มาให้เสียบจากพอร์ต USB ของเราเข้าไปที่จอ เพื่อให้ใช้พอร์ต USB ของจอภาพได้ (สายที่มาในกล่องจึงมีแค่ สายไฟ x1, สาย USB upstream x1, สาย MiniDP to DP x1)
USB อีกสองพอร์ตจะอยู่ที่ขอบซ้ายของจอ
ปุ่มเปิดจอจะกดยากนิดนึง คืออยู่ที่มุมขวาล่าง หลบเข้าไปที่ขอบจอด้านใต้เล็กน้อย
ขอบจอแบบ InfinityEdge ที่เป็นเอกลักษณ์ มันก็บางจริงๆ แหละนะ ตอนจับจอยกนี่มีเสียวเลย
ลองใช้แล้วก็เห็นความแตกต่างได้อย่างไม่ยากครับ สีสันสดสวยชัดเจนมาก คือลองดาวน์โหลด wallpaper สีสดๆ จาก Bing มาใช้แล้วก็ตะลึงไปแพรบ (จอห่วยๆ ของ ThinkPad ผมนี่หมองไปเลย มันเป็นตัวเทียบที่ไม่ดีนัก แต่ก็ไม่อยู่แค่นี้)
ฟีเจอร์อีกอย่างที่ผมชอบคือ ขาตั้งของจอ UltraSharp (ทุกรุ่นนะ) ออกแบบมาดี เราสามารถปรับระดับความสูง ความเอียงซ้ายขวาก้มเงยของมันได้ง่ายมากๆ ชนิดว่าออกแรงนิดเดียวก็เอาอยู่ แถมมั่นคงแข็งแรงดีมาก ปรับระดับแล้วอยู่ปึ๊กไม่ต้องกังวัลใดๆ ว่ามันจะไม่เสถียร
ผมคงไม่ได้วัดพวก Color Gamut ใดๆ เพราะไม่ต้องการฟีเจอร์ขนาดนั้น + ไม่มีเครื่องมือ แต่โดยรวมแล้วจอ U2417H ก็ให้ความพึงพอใจดีมาก สีสันสดสวยในราคาเอื้อมถึงได้ ข้อเสียเดียวที่นึกออกคงเป็นว่าไม่มีสาย HDMI มาให้ในกล่อง เท่านั้นล่ะครับ