ติโตเป็นพระราชนิพนธ์แปลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (เป็น 1 ใน 2 เล่มที่ทรงแปล อีกเล่มคือนายอินทร์ผู้ปิดทองหลังพระ) เป็นเรื่องของโจซิป โบรซ ติโต (Josip Broz Tito) ประธานาธิบดีผู้สร้างชาติยูโกสลาเวียช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง
หนังสือไม่ยาวนัก มีแผนที่และภาพประกอบสวยงาม ในหลวงแปลจากหนังสือเรื่อง Tito ของ Phyllis Auty ตอนนี้ฉบับแปลยังมีขายอยู่ที่ร้านนายอินทร์ ราคา 250 บาท (ปกแข็งอย่างดี)
เราอาจคุ้นเคยชื่อ "ยูโกสลาเวีย" (Yugoslavia) จากสงครามช่วงยุค 90s กันมาบ้าง แต่ถ้าถามว่าประเทศยูโกสลาเวียเป็นอย่างไร จำนวนคนที่ตอบได้อาจไม่เยอะนัก เมื่อเทียบกับชาติยุโรปตะวันตกทั้งหลาย
ยูโกสลาเวีย ตั้งอยู่บนคาบสมุทรบอลข่าน (Balkan) ที่อยู่ทางตะวันออกของอิตาลี อยู่ด้านเหนือของกรีซ ด้านใต้ของออสเตรีย-ฮังการี
ดินแดนแถบนี้ปัจจุบันแยกเป็นหลายประเทศ ได้แก่ โครเอเชีย เซอร์เบีย บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา ฯลฯ (ล้วนแต่เป็นประเทศเกิดใหม่หลังยุคสงครามเย็น) ประเทศทั้งหมดแตกออกมาจากยูโกสลาเวียเดิม ซึ่งรวมชาติโดยติโตในยุคหลังสงครามโลกนั่นเอง
ประเทศที่แยกออกมาจากยูโกสลาเวีย ภาพจาก Wikipedia
ประวัติของติโต ค่อนข้างคล้ายกับเหมาเจ๋อตงพอสมควร (แน่นอนว่ามีจุดที่ไม่เหมือนกันอยู่ดี) ติโตเป็นคนโครเอเชีย เกิดก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 ประกอบอาชีพเป็นช่างเครื่องยนต์ธรรมดาทั่วไป (เคยทำงานให้ Daimler ด้วยนะ) ตอนนั้นดินแดนโครเอเชียอยู่ภายใต้การปกครองของจักรวรรดิออสเตรียฮังการี ที่ดันไปแพ้สงครามโลกครั้งที่ 1 จนจักรวรรดิล่มสลายไป
ติโตเป็นทหารเกณฑ์ไปรบที่รัสเซีย พอแพ้สงครามเลยถูกจับเป็นเชลยสงคราม แต่คงเป็นฟ้าลิขิตพอดี รัสเซียตอนนั้นมีปฏิวัติบอลเชวิคพอดี (ล้มระบบกษัตริย์ สถาปนารัฐคอมมิวนิสต์โดยเลนิน) ติโตเลยจับพลัดจับผลูไปเป็น "เรดการ์ด"อยู่ช่วงหนึ่ง (แถมได้เมียเป็นรัสเซียด้วย)
หลังสงครามสิ้นสุด ติโตกลับมายังบ้านเกิดและประกอบอาชีพช่างเครื่องยนต์ดังเดิม แต่โลกยุคนั้นกระแสคอมมิวนิสต์กำลังมาแรง ทำให้ติโตที่เคยผ่านงานในรัสเซียช่วงบอลเชวิคมาก่อน ต้องกลับมารับบทบาทในพรรคคอมมิวนิสต์แห่งยูโกสลาเวียอีกครั้ง (ตอนแรกในพรรคมีแกนนำหลายคน แต่สุดท้ายติโตได้เป็นผู้นำ)
ภาพจาก Marxists Internet Archive / Wikipedia
ตอนนั้นยูโกสลาเวียเป็นราชอาณาจักร เป้าหมายของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งยูโกสลาเวีย จึงเป็นการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ภายใต้การนำของ Comintern หน่วยงานปฏิวัติสากลของโซเวียต ชื่อ "ติโต"ที่เป็นนามของสหายก็มาจากช่วงนี้ (ชื่อจริงของเขามีแค่ "โจซิป โบรซ")
อย่างไรก็ตาม ยูโกสลาเวียก็วุ่นวายอีกครั้ง เพราะนาซีเยอรมันบุกเข้ามาพอดี สถาบันกษัตริย์จึงล่มสลายไป กษัตริย์หนีออกจากราชอาณาจักร ฝ่ายต่อต้านนาซีแบ่งออกเป็น 2 พวก คือ พวก Chetnik ที่หวังจะฟื้นฟูระบบกษัตริย์ และพวก Partisan ของฝ่ายคอมมิวนิสต์ ที่มีติโตเป็นแกนนำ อย่างไรก็ตาม ทั้งสองฝ่ายกลับต่อสู้กันเองมากกว่าสู้กับนาซีด้วยซ้ำ เพราะต่างก็รู้ว่าถ้าขจัดอีกฝ่ายได้สำเร็จก่อนสงครามจบ ตัวเองจะเป็นผู้ปกครองยูโกสลาเวียในอนาคตต่อไป
ฝ่าย Chetnik มีความเชื่อมโยงกับรัฐบาลพลัดถิ่นของยูโกสลาเวีย และได้รับกำลังเสริมจากฝ่ายสัมพันธมิตรอย่างมาก ในขณะที่ฝ่าย Partisan ที่ใกล้ชิดกับโซเวียต กลับไม่มีใครในโลกเสรีรู้จักเลย (แถมการสื่อสารในช่วงนั้นก็ยากลำบากมาก) ติโตในฐานะลูกหม้อของ Comintern ก็พยายามต่อสู้แบบกองโจรกับนาซี โดยหวังว่า Comintern จะส่งกำลังมาช่วย แต่ตอนนั้นรัสเซียก็ยังเอาตัวเองไม่ค่อยจะรอด ความผิดหวังในช่วงนั้นเป็นเหตุให้ติโตห่างเหินกับรัสเซียในช่วงหลังสงคราม และร่วมก่อตั้งกลุ่มประเทศไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ในช่วงสงครามเย็น
ความจริงจังของ Partisan ในการต่อสู้กับนาซี พิสูจน์ตัวเองให้ฝ่ายสัมพันธมิตรเห็น สมรภูมิยุโรปตอนนั้นน่าจะมีฝ่าย Partisan เพียงฝ่ายเดียวที่ต่อต้านนาซีแบบกองโจรอย่างต่อเนื่อง (เพราะยุโรปโซนอื่นแพ้เยอรมันไปหมดแล้ว) ช่วงที่โดนนาซีถล่มหนักๆ ฝ่าย Partisan ต้อง "เดินทางไกล"เข้าไปในเขตป่าเขา (เหมือน long march ของเหมาเจ๋อตงมาก)
แผนที่การต่อต้านของฝ่าย Partisan ตอนสงครามโลก (สีแดง) ภายใต้การบุกยึดของนาซี (สีเขียว) ภาพโดย Dada/Wikipedia
เมื่อรอดผ่านช่วงเวลาอันโหดร้ายมาได้ บวกกับฝ่ายสัมพันธมิตรเริ่มตีโต้ได้ ทำให้พันธมิตรเข้ามาช่วยฝ่าย Partisan แทนที่จะเป็นฝ่าย Chetnik ซึ่งเคยช่วยนาซีรบเพื่อจะปราบ Partisan แทน
หลังสงครามสงบ ติโตสถาปนารัฐยูโกสลาเวียขึ้นมาใหม่ ใช้การปกครองแบบคอมมิวนิสต์ที่ไม่เดินตามก้นของรัสเซีย เนื้อหาในพระราชนิพนธ์แปลจบลงตอนที่ติโตชนะสงครามในปี 1945 แต่ชีวิตของติโตยังเป็นประธานาธิบดีของยูโกสลาเวียจนเสียชีวิตในปี 1980
ดินแดนยูโกสลาเวีย แปลว่าดินแดนของเผ่าสลาฟใต้ (Yugo + Slav) ที่รวมเผ่าพันธุ์ต่างๆ เข้าด้วยกัน มีวัฒนธรรมประเพณี ศาสนาแตกต่างกัน ไม่น่าจะสามารถรวมตัวกันได้ง่ายนัก แต่ภายใต้การคุกคามจากศัตรูภายนอก บวกกับภาวะผู้นำของติโต ส่งผลให้ยูโกสลาเวียสามารถผงาดขึ้นมาเป็นชาติที่มีพลังอำนาจต่อรองในเวทีโลกได้ (ติโตเป็นคนโครแอท คนละเผ่ากับพวกเซิร์บที่อยู่บริเวณเมืองหลวง แต่แนวคิดของติโตคือไม่สนใจชาตินิยมเฉพาะเผ่าโครแอทหรือเซิร์บ ต้องการสร้างรัฐยูโกสลาเวียต่างหาก)
อย่างไรก็ตาม หลังติโตตาย กาวที่ผนึกเอาไว้ก็เริ่มสลายคลาย เมื่อบวกกับภาวะสงครามเย็นสิ้นสุด ค่ายคอมมิวนิสต์ล่มสลาย สุดท้ายยูโกสลาเวียจึงไม่สามารถดำรงอยู่ได้ ในปี 1992 ประเทศแตกตัวออกเป็นรัฐย่อยๆ ตามแต่ละเผ่าพันธุ์ และทำสงครามต่อกัน (ฝ่ายเซิร์บไม่อยากให้เผ่าอื่นๆ แยกออกไป) อยู่พักใหญ่ แต่สุดท้ายก็ต้องแยกกันอยู่ดี ปิดฉากความฝันของมหาบุรุษอย่างติโตไปอย่างน่าเสียดาย
แผนที่ชาติพันธุ์ของยูโกสลาเวีย ภายโดย historicair / Wikipedia